กว่าจะมาเป็น YouTubeถ้าคุณพิมพ์ URL ลงในช่องแอดแดรสด้วย http://www.youtube.com/ สิ่งที่จะปรากฏต่อหน้าคุณก็คือที่ตั้งของเว็บไซต์ YouTube ที่หน้าตาแสนจะธรรมดา แต่ทว่าก็เป็นหนึ่งในเว็บระดับโลก ที่ทำให้ผู้คนหลงไหลและแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม ไม่ขาดสาย เสน่ห์อันลืมไม่ลงของ YouTube นั้นก็อยู่ที่คลิปวิดีโอ ซึ่งให้บริการรับชมกันผ่านหน้าเว็บแบบฟรีๆ ไม่เสียเงิน โดยคลิปวิดีโอพวกนี้ก็ไม่ได้มาจากค่ายหนังดังที่ไหนหรอกครับ ส่วนใหญ่จะมาจากทางบ้าน หรือใครก็ตามที่อยากโปรโมตตัวเองด้วยการโชว์ความสามารถต่างๆ ก็สามารถอัพโหลดไฟล์วิดีโอของคุณขึ้นสู่หน้าเว็บได้ แต่ก่อนที่เราจะพาไปรู้จัก YuTube แบบเกาะติดทุกหน้าเพจนั้น ผมอยากจะเล่าประวัติความเป็นมาของเว็บไซต์นี้กันสักนิด เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ YouTube ต้องทำอะไรมาบ้าง ?
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ YouTubeย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2005 เป็นวันที่ YouTube ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรก โดยอดีตพนักงานของ PayPal เพียงแค่สามคน ซึ่งได้แก่ Chad Hurley, Steve Chen, และ Jawed Karim ที่เริ่มบุกเบิกบริการแชร์วิดีโอออนไลน์ขึ้นมา ก่อนที่จะทำงานที่ PayPal นั้น Hurley ได้เคยศึกษาเรื่องการออกแบบจาก มหาวิทยาลัย อินเดียนา ส่วน Chen และ Karim ได้เคยศึกษาด้านวิศวคอมพิวเตอร์จาก University of Illinois at Urbana-Champaign โดยทั้งสองคนนี้ยังเป็นหัวหอกในเรื่องการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้กับระบบของ YouTube อีกด้วย
หลายคนที่เข้าไปใช้บริการมาแล้ว อาจสงสัยว่าเว็บนี้ใช้ระบบอะไรในการให้บริการ Play Video บนหน้าเว็บไซต์ จริงๆ แล้ว YouTube ใช้โปรแกรม Adobe Flash ในการจัดการกับเนื้อหาบนเว็บไซต์ ซึ่งรวมไปถึงวีดิโอตัวอย่าง ไฟล์หนังละคร มิวสิกวีดิโอ และวีดิโอจากทางบ้าน
โดยไฟล์วิดีโอที่เผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์ส่วนมากเป็นเพียงไฟล์คลิปที่สั้นๆ เท่านั้น ความยาวเพียงไม่กี่นาที ทำให้ผูใช้บริการสามารถเข้าชมได้โดยง่าย ทั้งจากบนเว็บของ YouTube เอง และจากตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำลิงก์ของ YouTube ไปแปะเอาไว้ รวมทั้งยังอนุญาตให้นำไปแบ่งปันหรือใช้งานต่อในเว็บไซต์ หรือบล็อกอื่นๆ ได้ด้วย และข้อห้ามของ YouTube ที่ถือเป็นกฎเหล็กคือ คุณไม่สามารถนำคลิปวิดีโอที่มีลิขสิทธิ์มาโพสต์ในนี้ได้ เว้นแต่ว่าผู้ที่โพสต์นั้นจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คลิปเหล่านั้นเอง อย่างไรก็ตามการที่จะพิสูจน์ระบุตัวเจ้าของลิขสิทธิ์ที่แท้จริงนั้นก็มิใช่เรื่องง่ายๆ ด้วยเช่นกันYouTube ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากคลิป Lazy Sunday ที่มาจากรายการสด Saturday Night เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2005 ทำให้ชื่อเสียงเริ่มแพร่กระจายไปทั่ว หลายเว็บไซต์ที่มีข้อมูลข่าวสารในรูปแบบวิดีโอ อย่างเว็บข่าวต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจไปด้วยนั้น เริ่มรู้สึกว่า YouTube อาจทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบากไก้ ดังนั้น ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2006 นี้ สถานีโทรทัศน์ NBC ได้ขอให้ YouTube ย้ายคลิปวิดีโอรายการซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ NBC รวมทั้ง Lazy Sunday และคลิปโอลิมปิก 2006 ออกจากเว็บไซด์ของ YouTube โดยด่วน หลังจากนั้นอีกเดือนกว่าๆ YouTube จึงได้ออกข้อกำหนดความยาวของคลิปวิดีโอไว้ได้ไม่เกิน 10 นาทียกเว้นวิดีโอที่อัพโหลดมาจากผู้อำนวยการของรายการดังกล่าว
เนื่องจากกระแสความดังของ YouTube ที่มีชื่อกระฉ่อนไปทั่วโลก ทำให้พวกเขาเนื้อหอมขึ้นอีกหลายเท่าตัว และมีการติดต่อเข้ามาจากผู้ให้บริการออนไลน์หลายแห่งด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือสถานีโทรทัศน์ NBC เจ้าเก่า ซึ่งได้กลับไปพิจารณาตัวเองใหม่ และได้ข้อสรุปว่ากลยุทธ์ที่จะทำให้พวกเขาได้เปรียบคู่แข่งอื่นๆ นั้นก็ต้องมาจากการร่วมมือกับ YouTube เท่านั้น โดยมีข้อตกลงร่วมกันคือ NBC จะเผยแพร่ตัวอย่างคลิปรายการของ NBC และ YouTube จะนำตัวอย่างรายการของ NBC แสดงทางเว็บไซต์เพื่อเป็นการโฆษณารายการไปด้วยในตัวด้วยอย่างไรก็ตาม ในเดือนมิถุนายน ปี 2006 Turner Media ได้ขอให้ YouTube ย้ายคลิปวิดีโอออกเป็นจำนวนมาก โดยยกเหตุผลในเรื่องการละเมิดลิขสิทธ์ขึ้น รวมถึงคลิป Robot Chicken และคลิปที่ล้อเลียน Ted Turner เป็นกัปตันที่บ้า เหมือนกับวิดีโอเรต IGPX
ซึ่งทางเว็บยังได้ถอดบางตอนของคลิปเพื่อนบ้านในจินตนาการของ Foster AMV นอกจากนี้วิดีโอบางอันก็ยังถูกรบกวนจากปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์อยู่เรื่อยๆ ซึ่งทางเว็บไซต์จะถูกก่อกวนโดยอ้างว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในคลิปวิดีโอหลักๆ บนเว็บไซต์ เช่น Cowboy Bebop, Escaflowne, Gundam show ถึงแม้ว่าจะมีทั้ง AMV และแฟนของวิดีโอดังกล่าวมาปกป้องก็ยังไม่สามารถป้องกันปัญหาในเรื่องลิขสิทธิ์ได้ ในเดือนต่อมา World Wrestling Entertainment ได้ขอให้ YouTube ย้ายบางปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบเสริมออกจากเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เพลงและรูปภาพประกอบต่างๆ
ซึ่งยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีปัญหาในเรื่องลิขสิทธิ์ที่เข้าามาเกี่ยวข้องอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยนอกจากนี้ทาง CBS ก็เคยร้องขอต่อ YouTube มาก่อนแล้ว ในเรื่องของการลบคลิปวิดีโอเป็นเรื่องๆ ไป ในทำนองเดียวกับที่ YouTube เคยเจอเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งต่อมาแนวความคิดของ YouTube ก็เปลี่ยนไป Sean McManus ผู้บริหารของ CBS กล่าวไว้ แนวโน้มในตอนนี้ เราสามารถได้รับคลิปวิดีโอที่เป็นความลับได้บ่อยขึ้น มันเป็นเรื่องที่น่าพอใจแก่สำนักข่าว CBS และเครือข่ายโทรทัศน์ของ CBS ดังนั้น น่าจะเป็นไปได้ที่เราควรจะเปิดรับความลับบางอย่างที่นำไปสู่ข่าวของ CBS แทนที่จะอยู่เฉยๆ แล้วพูดเพียงว่า “let’s pull it down” กลายเป็นว่าตอนนี้ Youtube สามารถรวบรวมข่าวลับๆ ที่ทางบ้านส่งมาได้มากกว่าทางสถานีโทรทัศน์เสียอีก ซึ่งก็เสี่ยงต่อการถูกฟ้องได้เช่นกัน ซึ่งล่าสุดนั้น Robert Tur นักข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งได้ยื่นฟ้อง YouTube เป็นคดีความ โดยกล่าวหาว่าทำการละเมิดลิขสิทธิ์ ในคดีนี้ก็ยังไม่มีคำตัดสินออกมา
นอกจากนี้ ผู้ใช้บางคนได้สร้างคำอื่นๆ เพื่อใช้ในการค้นและแยกขอบเขตของไฟล์ที่จะอัพโหลดเป็นการเฉพาะด้วย ตัวอย่าง มีสมาชิกบางส่วนในสังคมอินเทอร์เน็ตจะใช้คำว่า ‘Cheese souffle’ ในการค้นหาไฟล์ WWE เพื่อเป็นการหลบหลีก เมื่อเจอปรากฏการณ์แบบนี้เข้า ทาง YouTube ก็จำเป็นต้องลบไฟล์ที่ผิดกฎหมายเหล่านั้นทิ้งทั้นทีที่พบ
ความน่าแปลกใจบางอย่างเกี่ยวกับ YouTubeปัจจุบัน YouTube เป็นเว็บไซต์ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุด โดยสถิติจาก เนียลเซ็น/เน็ตเรตติ้ง (Nielsen/NetRatings) ระบุว่า YouTube เติบโตขึ้นจากเดิมที่มีผู้เข้าชม 7.3 ล้านคนเป็น 12.8 ล้านคน โดยคิดเป็น 297 เปอร์เซ็นต์ มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเดือนละ 20 ล้านคนตั้งแต่เดือนมกราคม โดยผู้เข้าชมจะใช้เวลามากมายไปกับการเปิดแต่ละหน้าของเว็บไซต์ และในแต่ละหน้าจะมีการเพิ่มจำนวนของเวลาที่เข้าชมมากกว่า 5 ครั้งในเวลาเดียวกัน จาก 11.8 ล้านในเดือนมกราคม เป็น 72.4 ล้านในเดือนมิถุนายน ปัจจุบันผู้เข้าชมจะใช้เวลา 28 นาทีโดยประมาณ เมื่อเทียบกับไปในเดือนมกราคม ที่ผู้ใช้บริการจะใช้เวลาในการเข้าชมเว็บไซต์เพียง 17 นาที ซึ่งการเพิ่มจำนวนเวลาเข้าชมนั้นเป็นผลมาจากการปรากฎเป็นข่าวด้วยนั่นเอง ทำให้ปัจจุบัน YouTube มีวิดีโอกว่า 100 ล้านเรื่องต่อวัน นอกจากนี้ยังมีการสำรวจว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ YouTube ส่วนใหญ่จะเป็นเพศชายอายุระหว่าง 12-17 ปี
อัตราการเติบโตของ YouTubeคงไม่มีทฤษฎีไหนที่อธิบาย กระแสความนิยมของ YouTube ได้ดีพอแน่ในตอนนี้ เพราะถือเป็นปรากฏใหม่ ที่แม้แต่ google เองก็ยังมองตาค้าง Youtube กลายเป็นจักรวาลของฟรีวิดีโอไปแล้ว ซึ่งจากเดิมวิดีโอเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของคนทั่วไป ไม่น่าเชื่อว่าจุดเล็กๆ บนเว็บไซต์กลับกลายเป็นเหมือนหิมะก้อนใหญ่ๆ ได้เช่นกัน เหมือนกับว่าเครือข่ายการติดต่อสื่อสารในปัจจุบันมีอยู่ทุกที่นั้น ได้นำพาความบันเทิงไปทุกหนทุกแห่งได้ในพริบตา แน่นอนว่าสิ่งนี้ได้เข้ามาเป็นปัจจัยแรกๆ ของคนทั่วไปเลยทีเดียว และ YouTube ก็ทำให้การดูวิดีโอง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก นับเป็นการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่นำมาซึ่งความยิ่งใหญ่และสร้างความพอใจให้กับผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม
ลักษณะเฉพาะที่น่าประทับใจYouTube มีการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชม โดยมีการแบ่งประเภทและจัดอันดับไฟล์คลิปวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ล่าสุด ไฟล์ที่มีผู้ชมมากที่สุด ไฟล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพื่อให้ผู้ชมสามารถเลือกชมได้อย่างสะดวกเพื่อเลือกสิ่งที่พอใจสูงสุด อีกทั้งยังมีบริการที่คุณสามารถดูวิดีโอได้ทีละเฟรม โดยทำได้คล้ายกับการมีเครื่องเล่น DVD ที่สามารถเลือกดูส่วนใดๆ ของวิดีโอก็ได้ ซึ่งบริการที่หลากหลายและเอาใจผู้เข้าชมมาขนาดเช่นนี้ ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของ YouTube ที่จะทำให้แน่ใจว่า พวกเขาจะอยู่กับผู้ชมไปตราบนานเท่านาน!
ทำไมวันนี้ YouTube จึงมีคนพูดถึงกันเยอะสำหรับใครบางคนนั้น การที่ได้โปรโมตตัวเองให้ผู้อื่นได้รู้จักอาจเป็นสิ่งที่เขาและเธอใฝ่ฝันมานาน เพียงแต่ว่ายังขาดเวทีหรือสถานที่ที่ใช้สำหรับแสดงตัวเองเท่านั้น เมื่อมีเว็บไซต์อย่าง YouTube เกิดขึ้น ซึ่งอนุญาตให้ใครก็ได้ที่อยากโปรโมตตัวเอง หรือต้องการสร้างความบันเทิงให้กับผู้อื่น ด้วยการแชร์ไฟล์วิดีโอที่มีเนื้อหาเชิงสร้างสรร ไม่ว่าจะถ่ายทำขึ้นมาเอง หรือใช้คอมพิวเตอร์ตัดต่อไฟล์วิดีโอแบบยำเละเทะก็ตาม คุณสามารถอัพโหลดไฟล์ขึ้นหน้าเว็บเพื่อแบ่งปันให้กับผู้อื่นดูได้ แน่นอนว่าที่เว็บนี้มีการสกรีนเนื้อหาด้วย หากไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศมากเกิน หรือกระทบต่อศาสนา ก็ไม่สามารถแสดงที่หน้าเว็บได้เลย ดังนั้น สิ่งทีคุณต้องทำคือเคารพกติกา หากต้องการโชว์ผลงานผ่าน YouTubeอย่างที่ทราบกันดีว่า YouTube เป็นผู้ให้บริการวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ตที่ยอมให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปชมและแบ่งปันคลิปวีดิโอกันได้โดยการอัพโหลดคลิปวิดีโอแลกเปลี่ยนกัน
และด้วยกระแสความนิยมของผู้ใช้ที่มีต่อบริการในรูปแบบนี้ จึงทำให้มีเว็บไซต์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นตามมาหลายแห่ง โดยใช้คอนเซปต์เดียวกัน คือ เป็นสถานที่ที่ให้ทุกคนได้เข้ามาโปรโมตไฟล์วิดีโอของตัวเองได้ และหนึ่งในเว็บไซต์ที่ผมพูดถึงก็คือ google video นั่นเอง ดูจากชื่อชั้นก็ไม่ใช่น้องใหม่อะไร เพียงแต่การที่ google กระโดดลงมาเล่นในสนามนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการให้มีบริการครบทุกด้านมากกว่า เว็บไซต์ของ google video ที่ให้บริการบางอย่างคล้ายคลึงกับ YouTube ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ google ก็สามารถใช้ประโยชน์จากแนวคิดนี้ทำเงินจากการดาวน์โหลดรายการโทรทัศน์ย้อนหลัง หรือไฟล์วิดีโอมูฟวี่เก่าๆ ที่ปล่อยให้ดาวน์โหลดในราคาที่ไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบในส่วนของฟรีวิดีโอกันแล้ว google video ยังคงตามหลัง YouTube อยู่พอสมควร
ผมว่าตรงส่วนนี้อาจเป็นเพราะเว็บไซต์ YouTube สามารถคงกลิ่นไอของคนอเมริกันได้มากกว่า ประมาณว่า “ไม่สวยงามที่หน้าตา แต่ก็หวือหวาได้ด้วยตัวมันเอง!” และสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสน่ห์ของ YouTube ก็คือ รอยยิ้มที่คุณสามารถหาได้จากไฟล์วิดีโอต่างๆ นั่นเอง บ่อยครั้งที่ผมมักจะได้ยินเสียงหัวเราะแบบหลุดโลกของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ซึ่งเปิดดูไฟล์วิดีโอจากหน้าเว็บของ YouTube ซึ่งนอกจากจะช่วยคลายเครียดได้แล้ว คุณยังสามารถหาไอเดียแปลกๆ จากที่นี่ได้เช่นกัน
การแสวงหาผลประโยชน์จาก YouTube นั้นทำได้ไม่ยากเลยครับ ลองคิดดูสิว่าในแต่ละวันมีผู้คนจากทั่วโลกแวะเวียนเข้ามาจำนวนมากมาย ถ้าคุณอยากโปรโมตตัวเองให้คนอื่นๆ ได้รู้จักละก็ รับรองว่าคุณมาถูกที่แล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ ผมแอบไปเห็นไฟล์วิดีโออยู่สองสามไฟล์ ซึ่งแปลกกว่าชาวบ้าน พอเปิดดูจนจบก็เพิ่งจะรู้ว่ามีโฆษณาแอบแฝงอยู่ที่นี่ด้วย แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเว็บไซต์นี้เลย เป็นการทำโฆษณาในรูปแบบที่ดูเหมือนกับว่าเป็นโฮมวิดีโอจากทางบ้านส่งมา แต่พอตอนท้ายก็เผยโพรดักส์บางอย่างออกมาด้วย
ไฟล์วิดีโอบางอันก็ทำให้เหมือนกับว่าเป็นเรื่องตลกชวนขัน ซึ่งเชื่อว่าหลายคนต้องมาเปิดดูแน่ๆ สุดท้ายก็มีโฆษณาแฝงมาแบบเนียนๆ ด้วย ถ้าไม่สังเกตให้ดีอาจจะนึกว่าเป็นการตัดต่อจากทางบ้าน ซึ่งมีฝีมือดีเกินเหตุ และมีหัวครีเอทีฟอามากๆ เป็นโชคดีของเจ้าของผลิตภัณฑ์พวกนี้จริงๆ ซึ่งสามารถหาช่องทางแปลกๆ ในการนำเสนอสินค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก ผมว่าต่อไป YouTube อาจจะต้องเรียกเก็บเงินกับโฆษณาแอบแฝงพวกนี้ก็เป็นได้
สมัครได้อย่างไรถ้าคุณต้องการหาความบันเทิงจากไฟล์วิดีโอบนหน้าเว็บเพียงอย่างเดียว ก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้เลย ไม่ต้องสมัครเป็นสมาชิกหรือลงทะเบียนใดๆ ทั้งสิ้น แต่สำหรับผู้ที่ต้องการอัพโหลดไฟล์วิดีโอนั้น คุณต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวให้กับทางเว็บไซต์เล็กน้อย จากนั้นก็ล็อกอินแล้วใช้บริการได้ตามอัธยาศัย มีข้อแนะนำอย่างหนึ่งว่า คุณควรปฏิบัติตามกฏกฏิกาของทางเว็บไซต์อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา และเพื่อให้ YouTube สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยเช่นกัน
เซฟไฟล์วิดีโอจาก YouTube อย่างไรเชื่อว่าหลายๆ คนที่เข้าไปดูไฟล์วิดีโอต่างๆ ผ่านหน้าเว็บ YouTube อาจถูกใจเป็นพิเศษ และอยากจะเก็บไฟล์เหล่านี้เอาไว้ในเครื่อง เพื่อเปิดดูเวลาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูในเว็บทุกครั้ง เพราะบางทีคนเข้าไปดูเยอะก็อาจเปิดดูไฟล์วิดีโอได้ช้าลง ซึ่งตัวเลือกในการเซฟไฟล์วิดีโอจากหน้าเว็บก็ไม่มีเสียด้วย แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้ ไม่ต้องห่วงครับ เราได้ไปหาวิธีมาให้ผู้อ่านเรียบร้อยแล้ว เป็นการบันทึกไฟล์วิดีโอจากเว็บมาเก็บไว้ในเครื่อง ด้วยหลักการง่ายที่สุด ซึ่งมีดังนี้ครับ
ก่อนอื่นต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ www.keepvid.com หากเปิดได้ช้าให้เข้าที่เว็บนี้ก็ได้เช่นกันjavimoya.com/blog/youtube_en.php รอให้หน้าเว็บขึ้นมาก่อน แล้วคลิ้กเลือกในช่อง Site ไปที่รายการ youtube
ให้คุณก๊อบปี้ URL แอดเดรส ของไฟล์วิดีโอที่ต้องการเซฟ จาก youtube ไปวางไว้ที่ช่องว่างตรง URL ของหน้าเว็บในข้อที่หนึ่ง แล้วกดปุ่ม download ได้เลย (URL แอดเดรส ของไฟล์วิดีโอจะปรากฏอยู่ที่ช่อง Address ของ IE เวลาที่เราคลิ้กเข้าไปดูที่ไฟล์วิดีโอเหล่านั้น ค่า URL จะแสดงอยู่ในช่องนี้)
รอให้ขึ้นคำว่า Download Link จากนั้นคลิ้กเมาส์ขวาลงไปแล้วเลือกที่ “Save Target As” เพื่อบันทึกไฟล์ไปยังไดเรกทอรีปลายทางที่กำหนด
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วไฟล์ที่ได้จะเป็น get video ไม่มีนามสกุล ให้เราเปลี่ยนเป็น .flv นะครับ
ไฟล์ที่ได้มาอาจจะต้องหาโปรแกรมแปลงไฟล์ด้วยนะครับ โดยเข้าไปดาวน์โหลดโปรเเกรม flvplayer ซึ่งใช้สำหรับแปลงไฟล์ได้ที่ www.martijndevisser.com/blog/article/flv-player-updated
เมื่อได้โปรแกรมมาแล้วให้ติดตั้งลงในเครื่อง จากนั้นก็ใช้โปรแกรมนี้แปลงไฟล์ได้เลย
Note: สำหรับเว็บไซต์ www.keepvid.com ที่ได้แนะนำไปนี้ คุณยังสามารถใช้บริการดาวน์โหลดไฟล์อื่นๆ จากเว็บไซต์ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นไฟล์วิดีโอ มิสิกวิดีโอ และวิดีโอ สตรีมมิ่ง ที่ให้บริการเปิดชมผ่านทางหน้าเว็บได้ โดยให้เลือกไปยังหัวข้อที่ต้องการให้ดาวนืโหลดได้เลย
บทสรุปYouTube เป็นปรากฏการณ์ใหม่ ที่ทำให้สังคมออนไลน์คึกคักอีกครั้ง ผมว่าบรรดา ISP ทั้งหลายคงพอใจกับบริการแปลกๆ ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน เพราะทำให้ผู้คนใช้เวลาไปกับการเล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ในทางกลับกัน บริการในรูปแบบนี้ก็มีความเสี่ยงในการปิดตัวเองสูงด้วยเช่นกัน เมื่อมีผู้ใช้บริการจำนวนมหาศาลต่อวัน การดูแลตัวเองในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ผู้อื่นส่งมาให้ถึงหน้าบ้าน ก็อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ลองคิดดูสิว่าถ้ามีใครให้คุณนั่งดูไฟล์วิดีโอที่มีความยาวไม่กี่นาที แต่มีจำนวนมากถึงสิบล้านไฟล์ต่อวัน เพื่อสกรีนตรวจสอบเนื้อหา คงต้องใช้เวลาไปกว่าครึ่งชีวิตแน่!!